น.ส.วรัญตี การะเกตุ ปวท. ปี1 วิทยาศาสตร์ศึกษา KU
วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554
สรุป
กล้วยไม้ มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "orchid" น่าแปลกที่ทั้งในภาษาไทยและอังกฤษต่างก็มีความหมายใกล้เคียงกัน เราเรียกพืชชนิดนี้ว่า กล้วยไม้ เพราะมีลักษณะ คล้ายกล้วย ได้แก่เอื้องต่าง ๆ เช่น เอื้องผึ้ง หรือเอื้องคำ ซึ่งมีมากในแถบภาคเหนือของประเทศ ส่วนของกล้วยไม้บางตอนมีลักษณะคล้ายผลกล้วยเราเรียกว่า ลำลูกกล้วย คำ "orchid" นั้น มาจากภาษากรีกหมายความถึงลักษณะโป่งเป็นกระเปาะคล้ายต่อมชื่อนี้ก็คงจะได้มาจากการพิจารณาจากลำลูกกล้วยที่เป็นส่วนของกล้วยบางชนิดเช่นเดียวกันแต่ลักษณะพื้นฐานทาง พฤกษศาสตร์ ที่บรรยายลักษณะพืชในวงศ์กล้วยไม้ ได้ยึดถือรายละเอียดต่าง ๆ ของดอกเป็นหลักสำคัญพันธุ์ไม้ในวงศ์กล้วยไม้ด้วย
กล้วยไม้มีสภาวะความเป็นอยู่ตามธรรมชาติแตกต่างกัน บางชนิดอยู่บนพื้นดินบางชนิดอยู่บนต้นไม้ และบางชนิดขึ้นอยู่บนหินที่มีหินผุและใบไม้ผุ ตกทับถมกันอยู่ ทั้งนี้สุดแล้วแต่ลักษณะและอุปนิสัยของกล้วยไม้แต่ละชนิด ซึ่งจะปรับตัวตามความเหมาะสมกับสภาวะและการเปลี่ยนแปลงตามสภาพต่าง ๆ ของธรรมชาติที่แวดล้อม
ดังนั้นจากการที่นักเรียนได้ทำการศึกษากล้วยไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่นนั้น ทำให้นักเรียนได้รับความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของระบบนิเวศของกล้วยไม้ว่ามีสภาพการดำรงชีวิตอย่างไร มีสัตว์ชนิดใดมารบกวนหรืออาศัยอยู่ร่วมกันกับกล้วยไม้ได้ ส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ในการปรับตัวที่จะมีชีวิตรอดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
กล้วยไม้แต่ละชนิดต่างก็มีลักษณะและระบบของรากที่เข้ากับสิ่งที่ไปอาศัยพักพิงอยู่อย่าง เหมาะสมที่สุด กล้วยไม้ชนิดที่ขึ้นอยู่ บนดินรากจะมีลักษณะเป็นหัวและอวบอิ่มไปด้วยน้ำจึงมีศัพท์ เฉพาะที่บรรยายลักษณะของรากเช่นนี้ว่า "อวบน้ำ" กล้วยไม้ประเภทนี้มีอยู่ หลายสกุล เช่น สกุลฮาเบนาเรีย (Habenaria )เพ็คไทลิส ( Pecteilis ) และ แบรคคีคอไรทิส (Brachycorythis ) ซึ่งในประเทศที่มี ฤดูหนาวมีหิมะตกทับถมบนพื้นดินหนามาก และเป็นเวลานานหลายเดือนด้วย แต่กล้วยไม้เหล่านี้ก็คงทนอยู่ได้เนื่องจากมีความสามารถพิเศษ ในการปรับ ลักษณะของตัวเองให้ เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของฤดูกาลที่ปรากฏเป็นประจำในรอบปีได้ กล่าวคือเมื่อ ถึงฤดูที่อากาศหนาว จัดหรือแห้งจัดต้นและใบที่อยู่เหนือพื้นดินจะแห้งไป คงเหลือแต่หัวฝังตัวอยู่ภาย ใต้ผิวดินครั้งพอถึงฤดูที่สภาพแวดล้อม เหมาะสมก็จะเจริญขึ้นมาเป็นต้นและใบเมื่อเจริญเต็มที่ก็จะ ผลิดอกและสร้างหัวใหม่เพื่อเก็บสะสมอาหารไว้ใต้ผิวดินอีกเมื่อหัวใหม่เจริญเต็ม ที่ส่วนต้น ใบ และดอกเหนือผิวดินก็จะถึงเวลาแห้งเหี่ยวพอดี ส่วนหัวจะพักรอเวลาที่อากาศเหมาะสมก็จะเจริญเติบโตขึ้นมาใหม่ดังนี้เรื่อยไป นอกจากกล้วยไม้ดิน ซึ่งมีหัวเป็นที่สะสมอาหารใต้ดินแล้ว ยังมีกล้วยไม้ประเภทไม่มีหัวและชอบขึ้นอยู่บนหินภูเขาที่มีเศษหินผและเศษใบไม้ ผุทับถมกันอยู่หนาพอสมควรเป็นกล้วยไม้ในสกุลพาฟิโอเพดิลัม (Paphiopedilum ) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า กล้วยไม้รองเท้านารี และยังมีบางประเภทซึ่งเกาะ อยู่บนคาคบไม้ ซึ่งจะพบได้ในเขตร้อน เช่น กล้วยไม้ในสกุล แวนดา (Vanda ) แคทรียา (Cattleya ) และ สกุล เดนโดรเบียม (Dendrobium ) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า สกุลหวาย กล้วยไม้ประเภทนี้จะมีลักษณะแปลกออกไปคือ มีรากใหญ่ ยาว และแตกแขนงรากอย่างโปร่ง ๆ เป็นรากอากาศแม้จะเกาะกับต้นไม้ก็จะมีส่วนที่ยาวและห้อยลงมาในอากาศด้วย แต่รากกล้วยไม้ สกุลแคทรียาและ เดนโดรเบียมมีลักษณะค่อนข้างเล็ก ละเอียดและหนาแน่นไม่โปร่งอย่างแวนด้า บางตำราจึงแยกกล้วยไม้สกุลแคทรียาและ เดนโดรเบียมไปไว้ในประเภทกึ่งอากาศ กล้วยไม้ที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ มิใช่กาฝาก เป็นเพียงอาศัยเกาะ และอาศัยร่มเงาจาก กิ่งและใบ ของต้นไม้เท่านั้น มิได้แย่งอาหารใดๆ จากต้นไม้ที่อาศัยเกาะนั้นเลยรากของกล้วยไม้ได้อาศัยความชื้นจากอากาศ หรือ จากเปลือก ของต้นไม้และอาศัยธาตุอาหารต่าง ๆ จากการผุ และสลายตัวของใบไม้ที่ผุเปื่อยแล้วกล้วยไม้เป็นต้นไม้ที่มีสีเขียว เช่น เดียวกับต้นไม้ทั่วไป จึงมีความต้องการแสงสว่าง น้ำ หรือ ความชื้น ธาตุอาหาร และอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อการดำรงชีวิต การเจริญเติบโตและผลิดอกออกช่อตามเวลาอันสมควร ไม่แตกต่างไปจากต้นไม้อื่น ๆ เลย
ประเมินผล
แหล่งข้อมูล
ภาระงานที่ 1
http://www.panmai.com/Orchid/orchid1.shtml
ภาระงานที่ 2
http://www.panmai.com/Orchid/orchid2.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ภาระงานที่ 3
http://www.panmai.com/Orchid/orchid4.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ปราชญ์ชาวบ้าน
ภาระงานที่ 4
http://www.panmai.com/Orchid/orchid7.shtml
http://www.panmai.com/Orchid/orchid5.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ปราชญ์ชาวบ้าน
http://www.panmai.com/Orchid/orchid1.shtml
ภาระงานที่ 2
http://www.panmai.com/Orchid/orchid2.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ภาระงานที่ 3
http://www.panmai.com/Orchid/orchid4.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ปราชญ์ชาวบ้าน
ภาระงานที่ 4
http://www.panmai.com/Orchid/orchid7.shtml
http://www.panmai.com/Orchid/orchid5.shtml
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ปราชญ์ชาวบ้าน
กระบวนการ
ภาระงานที่ 1
นักเรียนสามารถศึกษาชื่อสกุล ชื่อวิทยาศาสตร์ของกล้วยไม้ แหล่งกำเนิดกล้วยไม้ การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในประเทศไทยได้จาก
- หนังสือพันธุ์กล้วยไม้
- หนังสือสารานุกรม
ภาระงานที่ 2
- ให้นักเรียนเลือกกล้วยไม้ที่ตนเองสนใจ โดยให้นักเรียนจับคู่กันศึกษากล้วยไม้จำนวน 1 สายพันธุ์ ซึ่งควรจะเป็นกล้วยไม้ที่มีในท้องถิ่น
- จากนั้นให้นักเรียนนำกล้วยไม้มาศึกษาส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราก ลำต้น ช่อดอก ดอก เกสร ผลหรือฝัก โดยให้นักเรียนนำเสนอหน้าชั้นเรียน ซึ่งนักเรียนสามารถใช้โปรแกรมการนำเสนอได้อย่างอิสระ
ภาระงานที่ 3
- ให้นักเรียนที่จับคู่กันศึกษาว่าในท้องถิ่นมีกล้วยไม้สายพันธุ์ใดบ้าง โดยให้นักเรียนรวบรวมมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยนำภาพมานำเสนอด้วยโปรแกรม photostory
- นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ว่ากล้วยไม้ที่พบในท้องถิ่นเป็นสายพันธุ์ทั่วไปหรือสายพันธุ์หายาก แล้วทำการสรุป
ภาระงานที่ 4
ให้นักเรียนจำลองวิธีการปลุกกล้วยไม้ ซึ่งวิธีการที่จัดทำขึ้นต้องสามารถขยายพันธุ์ได้จริง โดยนักเรียนต้องสร้างเป็นแบบจำลองมาส่งครูพร้อมรายงานประำกอบ
ภาระงาน
ภาระงานที่ 1
ให้นักเรียนศึกษาชื่อสกุล ชื่อวิทยาศาสตร์ของกล้วยไม้
แหล่งกำเนิดของกล้วยไม้ การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ใน
ประเทศไทย
ภาระงานที่ 2
ให้นักเรียนเลือกกล้วยไม้ในท้องถิ่นที่ตนเองสนใจ มาศึกษา
ลักษณะ ส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น ช่อดอก ดอก
เกสร ผลหรือฝัก
ภาระงานที่ 3
ให้นักเรียนสืบค้นกล้วยไม้ในท้องถิ่นว่ามีสายพันธุ์ใดบ้าง แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าสายพันธุ์ใดเป็นสายพันธุ์ทั่วไปหรือสายพันธุ์หายาก
ภาระงานที่ 4
ให้นักเรียนจำลองวิธีการปลูกกล้วยไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ดี
ให้นักเรียนศึกษาชื่อสกุล ชื่อวิทยาศาสตร์ของกล้วยไม้
แหล่งกำเนิดของกล้วยไม้ การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ใน
ประเทศไทย
ภาระงานที่ 2
ให้นักเรียนเลือกกล้วยไม้ในท้องถิ่นที่ตนเองสนใจ มาศึกษา
ลักษณะ ส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น ช่อดอก ดอก
เกสร ผลหรือฝัก
ภาระงานที่ 3
ให้นักเรียนสืบค้นกล้วยไม้ในท้องถิ่นว่ามีสายพันธุ์ใดบ้าง แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าสายพันธุ์ใดเป็นสายพันธุ์ทั่วไปหรือสายพันธุ์หายาก
ภาระงานที่ 4
ให้นักเรียนจำลองวิธีการปลูกกล้วยไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ดี
บทนำ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่จะนำมาศึกษาได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องตามจุดมุ่งหมายของงานแต่ละชิ้น
2. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกประวัติ ลักษณะของกล้วยไม้ และพันธุ์กล้้วยไม้ได้
3. เพื่อให้นักเรียนสามารถปลูกและขยายพันธุ์กล้วยไม้ด้วยตนเองได้
4. เพื่อให้สามารถสามารถนำำกล้วยไม้มาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าให้กับท้องถิ่นได้
5. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงปัญหาการสูญพันธุ์ของกล้วยไม้จากสาเหตุต่าง ๆ
6. เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้นักเรียนเกิดความรู้สึกรักท้องถิ่น ประเทศชาติ และ โลก
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่จะนำมาศึกษาได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องตามจุดมุ่งหมายของงานแต่ละชิ้น
2. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกประวัติ ลักษณะของกล้วยไม้ และพันธุ์กล้้วยไม้ได้
3. เพื่อให้นักเรียนสามารถปลูกและขยายพันธุ์กล้วยไม้ด้วยตนเองได้
4. เพื่อให้สามารถสามารถนำำกล้วยไม้มาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าให้กับท้องถิ่นได้
5. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงปัญหาการสูญพันธุ์ของกล้วยไม้จากสาเหตุต่าง ๆ
6. เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้นักเรียนเกิดความรู้สึกรักท้องถิ่น ประเทศชาติ และ โลก
แนะนำบทเรียน
ภายใน WebQuest มีส่วนประกอบทั้งหมด 6 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 : บทนำ ภายในประกอบด้วย บทนำ จุดประสงค์การเรียนรู้ และ แนะนำบทเรียน
ส่วนที่ 2 : ภาระงาน ภายในประกอบด้วย คำสั่ง+คำอธิบาย, แหล่งข้อมูล และเกณฑ์การประเมินผลชิ้นงานของแต่ละภาระงาน
ส่วนที่ 3 : กระบวนการ ภายในประกอบด้วยรายละเอียดของกระบวนการในแต่ละชิ้นงาน
ส่วนที่ 4 : แหล่งข้อมูล ภายในประกอบด้วย แหล่งข้อมูล โดยจำแนกตามภาระงาน
ส่วนที่ 3 : กระบวนการ ภายในประกอบด้วยรายละเอียดของกระบวนการในแต่ละชิ้นงาน
ส่วนที่ 4 : แหล่งข้อมูล ภายในประกอบด้วย แหล่งข้อมูล โดยจำแนกตามภาระงาน
ส่วนที่ 5 : ประเมินผล ภายในประกอบด้วยเกณฑ์การประเมินผลของแต่ละชิ้นงาน
ส่วนที่ 6 : สรุป เมื่อคลิ๊กเข้าไปจะพบสรุปบทเรียน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)